“กิน” การให้ความสุขที่ต้องคิด
“ไปกินของอร่อยๆกัน” มักจะเป็นวลีที่ถูกเปร่งออกมาโดยอัตโนมัติ เมื่อเราหรือคนสำคัญของเราทำอะไรสำเร็จดังเป้าที่ตั้งไว้ การกินถือเป็นการให้รางวัลตัวเองที่ง่ายและเร็วที่สุดทางหนึ่ง และเรามักจะกินเยอะมากกว่าซะด้วยเมื่อเรามีความสุขและการเฉลิมฉลอง หากใครที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ก็จะมีเหตุผลสำหรับการฉลองนี้ว่า “มื้อเดียวเอง พรุ่งนี้ค่อยลด” ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเปรียบเปรยที่ว่า “วันที่ออกกำลังกายมากที่สุดคือ วันพรุ่งนี้” คนจำนวนไม่น้อยให้ความสุขกับปัจจุบันมากกว่าความมีสุขภาพดีในอนาคต ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล จงไม่แปลกที่จำนวนของคนที่มีภาวะน้ำหนักเกินและภาวะโรคอ้วนมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มโรค NCDs มากขึ้นเช่นกัน
นักเศรษฐศาสตร์อธิบายเหตุการณ์ที่เราให้ความสำคัญกับการกินมากกว่าสุขภาพในอนาคตนี้ผ่านแนวคิดของTime preferences ที่มีรูปแบบของอัตราการเปลี่ยนแปลงแบบHyperbolic แนวคิดนี้อธิบายง่ายๆว่า คนเรามีแนวโน้มที่จะเลือกรางวัลชิ้นเล็กและเห็นผลเร็ว มากกว่าการที่ต้องรอรางวัลชิ้นใหญ่ที่เห็นผลช้า
คนจำนวนไม่น้อยเลือกให้รางวัลตัวเองด้วยการกิน เพื่อเติมความสุขเมื่อต้องเจอเรื่องเครียดมาตลอดทั้งวัน การกินของที่โปรดปราน เป็นสิ่งรางวัลย้อมใจเล็กๆ ที่ได้รับความสุขทันทีและสามารถลดความเครียดให้อย่างดี เราจะละเรื่องเครียดนั้นไปได้ด้วยเพราะใจของเราจดจ่อกับอาหารวางอยู่ที่ตรงหน้า นอกจากนี้หากเรามีเพื่อนรู้ใจนั่งร่วมวง ประกอบกับบรรยากาศของร้านที่ผ่อนคลาย อาหารนับหลากหลายที่วางอยู่ตรงหน้าจะหายไปในพริบตาโดยไม่รู้ตัว ภาพจานเปล่าพร้อมกับแคปชันประมาณว่า กินเพลินจนลืมถ่าย จึงเห็นประจำใน Facebook
จะสังเกตได้ว่าร้านอาหารที่ได้รับความนิยมทั้งหลาย รสชาติอาหารแม้จะไม่อร่อยมากเนื่องจากต้องทำรสชาติกลางๆ สำหรับผู้บริโภคที่หลากหลาย มีการบริการดี จัดวางโต๊ะไม่แน่นมาก ตกแต่งร้านแบบเบาๆจัดแสงและการเปิดเพลงให้ผ่อนคลาย เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหาร สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบเพิ่มความสุขให้กับเรา เพื่อที่จะสั่งอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมากและราคาแพงกว่าปกติเพื่อชดเชยกับจำนวนลูกค้าที่รับได้ไม่มากนัดจากการจัดวางร้าน ซึ่งเราก็มักจะสั่งอาหารในร้านเหล่านี้มากกว่าปกติเมื่อเทียบกับการกินในชีวิตประจำวัน นั่นหมายถึงการกินที่มากกว่าปกติ และมักเป็นการกินในเมื่อเย็นซะด้วย หากเอาข้อมูลจำนวนร้านอาหารมาหาความสัมพันธ์กับจำนวนผู้มีภาวะน้ำหนักเกินและภาวะโรคอ้วน ความสัมพันธ์คงเป็นบวกอย่างไม่ต้องสงสัย
การให้รางวัลกับตัวเองโดยการกิน ไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไร แต่เราคงต้องเลือกที่จะกิน และคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพของเราในอนาคต เราอยู่ท่ามกลางอาหารอันสมบูรณ์ หากแต่คุณประโยชน์ของอาหารที่เราได้รับนั้นเพียงพอหรือไม่กับสุขภาพของเรา เราให้ความสุขกับการกิน กินตามใจปาก เอาให้ฟิน อนาคตช่างมัน มันคือการกินที่กำลังทำร้ายตัวเอง จะดีกว่ามั้ยถ้าเราให้ความสำคัญกับสุขภาพเราสักนิด ไม่ต้องมีความสุขมากๆ ความสุขสุดๆดับกับการกินตอนนี้ แต่มีความสุขน้อยๆ แต่นานๆ จากการกิน
หากท่านใดสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการกินในมุมมองเศรษฐศาสตร์ บทความเบาๆ ท่านสามารถติดตามได้เพิ่มเติมที่ www.eatecon.com
ขอบคุณ Photo by Icons8 team on Unsplash