ข้ออ้างของการตามใจปาก
- เมื่อเราอยากกิน เรามักจะหาข้ออ้างมาสนับสนุนการกินของเราได้เสมอ
- ‘รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ดี แต่มันอดไม่ได้’
————————————————————————————————————
ทุกคนอยากหุ่นดี ใส่เสื้อผ้าได้ทุกแบบด้วยความมั่นใจ มีสุขภาพแข็งแรง คงไม่มีใครอยากป่วย แต่ความอยากเหล่านี้มันคงเป็นที่ความฝันที่เลือนลาง เมื่อเรายังหาเหตุผลของการกินตามใจปากได้ทุกครั้ง
การหาเหตุผลต่าง ๆ นานามาสนับสนุนการกินที่เกินพอดี แบบนี้ในทางเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมเรียกว่า ความลำเอียงเพื่อยืนยัน หรือ Confirmation bias
ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ คนที่ชอบบอกว่า เวลาเครียดต้องกิน ถ้าไม่กินจะเครียด !!!
มีใครปฏิเสธบ้างว่า ไม่เคยได้ยินข้ออ้างเหล่านี้ สำหรับเรา เหตุผลนี้เราได้ยินบ่อยสุด
แต่…มันมีเหตุผลของการตัดสินใจมากกว่านั้น ที่ทำให้เราลำเอียงเข้าข้างตัวเอง
เพราะ ‘รู้อยู่แก่ใจว่า…ไม่ดี แต่มันอดไม่ได้’
มันเพราะอะไรกันนะ ที่ทำให้ความอยากเอาชนะได้ทุกครั้งไป
ในหนังสือชื่อ “เล่นหุ้นอย่างไร ไม่ให้ลำเอียง” ของ ศ.ดร.นภดล ร่มโพธิ์ [1] เจ้าของเพจ Nopadol’s story เขียนเหตุผลหนึ่งของความลำเอียงในการตัดสินใจเรื่อง “Moral Credential Effect: เราเคยทำถูก ดังนั้น เราจึงทำผิดได้” (เจ้าของไอเดียนี้คือ Monin & Miller เมื่อปี 2001 [2])
งานวิจัยนี้มี 3 กรณีศึกษา
- กรณีแรก พบว่าผู้ชายที่มีโอกาสแสดงความไม่เห็นด้วยกับการกีดกันทางเพศมาก่อน ต่อมามีแนวโน้มที่จะโหวตให้กับผู้สมัครเพศมากกว่าหญิง
- กรณีที่ 2 พบว่า คนผิวขาวที่เคยจ้างพนักงานผิวดำมาก่อน มีแนวโน้มที่ครั้งต่อไปจะเลือกคนผิวขาวเข้ามาทำงานมากกว่าคนผิวดำ
- กรณีสุดท้าย พบว่า ผู้ที่ได้แสดงออกว่า ไม่มีความลำเอียง ไม่ได้อคติ หรือเข้าข้างใคร มักมีแนวโน้มที่จะให้ความเห็นทางการเมืองที่ลำเอียงเมื่อผู้ฟังคล้อยตาม
เราจะเห็นว่าการแสดงออกซึ่งความไม่เห็นด้วยกับการกีดกันทางการเพศ การเหยียดสีผิว หรือความไม่มีอคติ เปรียบเหมือนใบเบิกทางของการทำในสิ่งตรงกันข้ามในภายหลัง
หลายคนคงสงสัย แล้วเราเอามาโยงกับเรื่องการกินยังไง
อันที่จริงแล้ว ในมุมมองของเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินของเรา มันคงไม่ได้ร้ายแรงเท่ากับการเหยียดสีผิว ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ การทำผิดศีลธรรม หรือการทำผิดกฎหมาย
แต่แนวคิดนี้ทำให้เรานึกถึงวลีหนึ่ง …“ออกกำลังกายแล้วกินได้” เป็นไง เพื่อน ๆ ได้ยินกันบ่อยมั้ย
พอตามใจปากทุกครั้งหลังออกกำลังกาย วลีที่มักจะตามมาคือ “เราจะเป็นหมูที่แข็งแรง” พร้อมกับเสียงฮาของเพื่อนร่วมวงสนทนา
เอาอีกคำ “Cheat day” ควบคุมมาทั้งอาทิตย์ ขอปล่อยสักวัน ไม่เป็นไร
เราอาศัยการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร มาเป็นใบเบิกทาง นี่คือความลำเอียงที่ทำให้หลายคน ออกกำลังกายเท่าไรก็ไม่เพียว ควบคุมน้ำหนักแทบตาย ไม่ได้ช่วยอะไร แถมน้ำหนักขึ้นเอา ๆ
หากถามเราว่า ข้ออ้างทั้งหลายที่เราใช้อยู่มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ
คำตอบคือ “ไม่” มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่มันไม่ควรเกิดขึ้นบ่อย
เพราะถ้ามันบ่อย ทำจนเป็นปกติ มันจะทำให้สิ่งที่เราพยายามทำไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย หรือการควบคุมอาหาร ไร้ประโยชน์
เราเข้าใจว่าการกิน ทำให้เรามีความสุข แต่เราต้องกินแต่พอดี
อย่าหาข้ออ้าง ‘ตามใจปาก’ ไปมากกว่านี้
ถ้าถามว่า แล้วจะแก้ยังไง?
เราแนะนำหนังสือชื่อ No Excuses เขียนโดย Brian Tracy แปลไทยเรียบร้อย ชื่อ “กำจัดข้ออ้างสุดท้ายออกจากชีวิต: No Excuses” แค่ชื่อก็โดนละ บางคนไม่กล้าซื้อ แต่บอกเลยว่า ยิ่งอ่านยิ่งโดน หนังสืออาจจะหนาหน่อย แต่อ่านง่าย เรารับรองว่าคุ้ม
หากอ่านแล้ว ลองทำตามคำแนะนำดูนะคะ แล้วมาแชร์กัน
#ด้วยรักและห่วงใยจากทีมEatEcon
#เรื่องดีดีมีให้อ่านทุกวัน
หากเพื่อนสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการกินในมุมมองเศรษฐศาสตร์ สามารถอ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ www.eatecon.com
#eatecon
ที่มา
1. นภดล ร่มโพธิ์. 2559. เล่นหุ้นอย่างไร ไม่ให้ลำเอียง. กรุงเทพ: โรงพิมพ์อักษะสัมพันธ์ (1987).
2. Monin, B. & Miller, D. T. 2001. Moral credentials and the expression of prejudice. Journal of personality and social psychology, 81, 33.
3. Photo by Gervyn Louis on Unsplash